เที่ยวจุใจ 1 วัน 2 จังหวัด 7 สถานที่

     เนื่องจากต้องไปทำธุระที่ จ.ลำปาง จึงทำให้เกิดทริปนี้ขึ้น จริงๆจะเหมาะกับทริป 2 วัน 1 คืนมากกว่า จะได้ชื่นชมกับบรรยากาศได้เต็มที่ แต่เนื่องจากเราไม่สามารถค้างคืนได้ ต้องกลับไปทำงาน ไม่เป็นไรแค่นี้ก็ได้ใช้เวลาในแต่ละที่ได้พอประมาณ
     หลักๆก็คือต้องการไปดูดอกนางพญาเสือโคร่งที่กิ่วฝิ่น ซึ่งเรามาจากทางลำปางก็จะแวะอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน แล้วเดินทางไปกิ่วฝิ่น ตอนกลับจะไม่กลับทางเดิม เราจะอ้อมไปกลับทางแม่กำปอง จ.เชียงใหม่แทน (ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมากๆ เพราะทางดีกว่าขามาเยอะเลย 555)

แผนที่ก็จะประมาณนี้ การเดินทางจะวนเป็นวงกลม ไม่ใช้เส้นทางเดิม

     อิ่มใจ วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง
     เราเริ่มต้นการเดินทางที่วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง ถือเป็นการไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อยสำหรับการเดินทางในวันนี้ วัดนี้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ลำปางเลยทีเดียว และยังเป็นพระธาตุประจำฉลูอีกด้วย ว่ากันว่าคนเกิดปีฉลูควรมาสักการะสักครั้ง เพื่อเสริมสิริมงคล

ด้านหน้าวัด 

ที่นี่มีบริการผ้าถุง สำหรับคนที่ใส่กางเกงขาสั้นมา 

 ด้านในวัด ด้านหน้าคือวิหารหลวง ด้านหลังคือพระธาตุ

กู่พระเจ้าล้านทอง ภายในวิหารหลวง

คำแนะนำคือให้ไหว้ขอพรจากพระธาตุก่อน จากนั้นจะเดินเวียนขวารอบพระธาตุ 3 รอบ

มีใบสวดมนต์ให้เราใช้สวดในการเวียนรอบพระธาตุ

เมื่อเสร็จแล้วก็ไปชม ปรากฏการณ์พระธาตุกลับหัว

ตรงนี้ให้เข้าได้แต่ผู้ชายนะคะ ผู้หญิงให้ดูได้ที่โบสถ์ฝั่งด้านซ้ายของพระธาตุ

 ภาพปรากฏการณ์พระธาตุกลับหัว

ครั้งแรกเข้าใจว่าต้นนี้คือต้นโพธิ์ แต่จริงๆแล้วเป็นต้นขะจาวค่ะ

     อิ่มท้อง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกหมูอ่อน บ้านเพชรรัตน์ จ.ลำปาง
     หลังจากไหว้พระเสร็จเราก็แวะหาอะไรรองท้องกันสักหน่อย ร้านนี้เราขับตามป้ายมาค่ะ เนื่องจากร้านที่จะไปกินปิด!! ร้านจะอยู่ในซอยสักหน่อยนะคะ แต่มีป้ายบอกทางชื่อร้าน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกหมูอ่อน บ้านเพชรรัตน์

ข้างในจะเป็นบ้านกึ่งไม้ กึ่งปูนค่ะ 

ภายในกว้างขวาง มีที่จอดรถได้ 2-3 คัน 

 

มีก๋วยเตี๋ยววีไอพีด้วย ผู้ใหญ่ก็แนะนำวีไอพีค่ะ อิ่มกำลังพอดี 

ราคาอาหารก็ประมาณนี้

อุปกรณ์ส่วนใหญ่ใช้เป็นเซรามิกของดี จ.ลำปางเค้า 

 จานแรกเป็นหมูลวกจิ้ม มีทั้งกระดูกหมูอ่อน และลูกชิ้น

กระดูกหมูอ่อนชิ้นใหญ่พอดีคำ ไม่ใช่คำเล็กนิดเดียวนะคะ 

น้ำจิ้มรู้แต่ว่ามีส่วนผสมของเต้าเจี้ยวค่ะ รสชาติแปลกใหม่ อร่อยดี

ก๋วยเตี๋ยวมาแล้ว หน้าตาน่าทาน สูตรเด็ดของที่นี่ผักที่ใช้เป็นคะน้าค่ะ 

อีกอย่างคือเค้าใส่ใบมะกรูดลงไปด้วย แปลกดีไม่เคยกิน

เวลากินก็ได้กลิ่นหอมๆใบมะกรูด อร่อยค่ะ

 รสชาติต้มยำจะออกหวานหน่อย ไม่เผ็ดมาก โดยรวมไม่ต้องปรุงก็ใช้ได้ค่ะ

เทียบขนาดชามกับมือ 

กระดูกหมูอ่อน เปื่อยยุ่ยดีค่ะ ออ! เกือบลืมลูกชิ้นที่นี่อร่อยมากค่ะ เนื้อแน่น

ให้ความรู้สึกว่าทำมาจากหมูจริงๆ ไม่ใช่แป้งนะ ไม่รู้ว่าร้านทำเองหรือซื้อมานะคะ

ก่อนกลับทางร้านให้นามบัตรไว้ตามนี้ค่ะ ร้านนี้ใช้ได้เลย มีโอกาสจะแวะไปกินอีก

ตอนนี้พยายามหาร้านใน กทม. ที่มีแบบนี้อยู่ คือติดใจ ใครรู้ร้านอร่อยแนะนำได้นะคะ

     อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง

     เมื่ออิ่มท้องกันแล้ว เราก็จะเดินทางต่อ ไปที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โดยไปตามเส้นทางหมายเลข 1157 จากนั้นก็เลี้ยวเข้าเส้นทาง 1287 ถนนเป็น 2 เลนส์สวนทางกัน มีทางโค้งตลอดเส้นทาง 

ก่อนที่จะถึงอุทยานฯ เราก็สะดุดตากับเจดีย์วัดวัดหนึ่งระหว่างทาง ก็เลยขอเก็บภาพสักหน่อย

     วัดข่วงกอม อยู่ที่หมู่บ้านข่วงกอม ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง มีเจดีย์ที่งดงามสะดุดตาเรามาก และยังมีวิหารที่ทำจากไม้สักทั้งหลัง ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา

 พระวิหารที่สร้างจากไม้สัก

ด้านหลังพระวิหารเป็นพระเจดีย์เหลี่ยม เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 พระองค์ 

และเส้นพระเกศาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

พระเจ้าอินทร์แป๋ง

ที่มา : พระเจ้าอินทร์แป๋งวัดข่วงกอม

     ออกเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งที่นี่มีบ่อน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 70-80 องศาเซลเซียสเลย สามารถทำให้ไข่สุกได้ด้วยนะเออ และยังมีน้ำตกอีกด้วย

 ถึงสักที แวะตลอดทางจนเวลาเริ่มจะหมด 555

กิจกรรมที่ต้องทำเมื่อมาถึงแจ้ซ้อนก็คือ การต้มไข่ในบ่อน้ำร้อน

มาถึงก็จะเห็นกระเช้าแบบนี้ กับไข่เป็นแผงๆวางเต็มไปหมด ไม่ต้องแปลกใจนะคะ

 เขตอุทยานฯเป็นเขตปลอดแอลกอฮอล์นะ

มีบ่อน้ำร้อนหลายบ่อมากๆ แต่ละบ่อก็จะอุณหภูมิแตกต่างกันนิดหน่อย

แต่ก็สูงถึง 70-80 องศาเลยนะ อย่าเอามือจุ่มหรือเอาตัวแช่ก็ไม่ได้นะคะ ฮาา

 บ่อนี้คนแช่เยอะดี แต่ละบ่อจะมีป้ายบอกไว้ว่าให้แช่ประมาณกี่นาที 

จะได้ไข่แดงที่สุกแข็งส่วนไข่ขาวจะเหลวค่ะ ซึ่งจะต่างจากการที่เราต้มไข่ธรรมดาตรงที่

ไข่ขาวจะสุกก่อน ส่วนไข่แดงจะสุกทีหลัง อะเมซิ่งมากๆ

บ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่

เมื่อเดินไปทางด้านหลังจะเป็นลำธารจากน้ำตกค่ะ

จุดที่น้ำตกเย็นๆ ไหลมารวมกับน้ำร้อนในบ่อ อุณหภูมิของน้ำจะอุ่นค่ะ

เค้าก็เลยทำห้องอาบน้ำแร่ไว้บริการ สามารถไปแช่น้ำแร่ได้เลย 

หรือจะลองเอาเท้าจุ่มน้ำอุ่นที่ด้านนอกก็ได้ค่ะ อุณหภูมิของน้ำกำลังดีเลย

     มื้อกลางวันเราฝากท้องไว้ที่นี่ ซึ่งเค้ามีร้านค้าขายส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่างบริการอยู่ค่ะ

     ตามล่านางพญาเสือโคร่ง กิ่วฝิ่น เขตติดต่อ จ.ลำปาง และ จ.เชียงใหม่
     ก่อนออกจากอุทยานฯ จะมีทางแยกไปทางขวามีป้ายเขียนว่ากิ่วฝิ่น เราเลือกใช้เส้นทางนี้ค่ะ ใกล้กว่าอีกเส้นทางนิดหน่อย (นิดจริงๆ) แต่ความโหดของเส้นทางก็พอประมาณเหมือนกัน

วิดีโอเส้นทางไปกิ่วฝิ่นบางส่วน

โค้งก็ประมาณนี้ค่ะ ถ้าซูมไปใกล้ๆทางโค้กก็จะเพิ่มขึ้น 5555

ถนนซีเมนต์ไม่มีหลุมไม่มีบ่อ แต่เลนส์แคบๆ โค้งเยอะๆ

พอเห็นถนนเราก็ตกใจ ห๊า!ทางนี้ไปได้จริงๆหรอ

ภาพจาก google map โค้งก็ไม่มากไม่มาย

คับได้พอดี 1 คัน แต่ถ้ามีรถสวนมาต้องได้ 2 คัน ฮ่าๆๆ 

ระหว่างทาง โค้งสวยงาม มีที่จอดรถให้จอดถ่ายรูปซะหน่อย 

ในบางช่วงเส้นนี้จะมีดอกเสี้ยวให้ดูด้วย น่าจะช่วงกุมภานะ

โค้งเบาๆ...คือให้ขับเบาๆนะ ฮ่าๆๆ

จุดชมวิว วันที่ไปอยู่ๆฝนก็เหมือนจะตก ทำให้มีหมอกหนาที่ยอดดอย

อากาศเย็นลงทันที ลมพัดแรง

ดูหมอกไหลด้วยลมพัดแรงๆ

ต่อๆ ไปเวียนหัวกับทางโค้งกันต่อ (อันนี้จอดรถถ่ายนะจ๊ะ)

ใกล้ถึงแล้วจะเจอธารน้ำอยู่ 3-4 ที่เลย ขับรถลุยน้ำเท่ๆกันไป

ถึงแล้วจ้า กิ่วฝิ่น ชมพูๆนั่นคือนางพญาเสือโคร่งนะ ห๊า!มีแค่นี้อ่ะนะ

คือเสือโคร่งที่นี่ไม่ได้มีเยอะเหมือนภูลมโลนะคะ แล้วขึ้นแบบธรรมชาติ 

ต้นสูง เวลาจะถ่ายรูปทีต้องแหงนหน้าเอา

ส่วนมากก็อยู่บนเขา ถ่ายได้แต่ไกลๆแบบนี้ เพ่งเอาละกันนะ 555

ซูมให้ดู

เนี่ยต้องแหงนนะคะ คอเกือบเคล็ด

อยู่สูงมากจริงๆ

ถ่ายไกลๆละกัน อิอิ

ทางที่เราผ่านมาแล้วเป็นเขตจังหวัดลำปางค่ะ 

     แม่กำปอง จ.เชียงใหม่
     ออกเดินทางสู่แม่กำปอง เราจะไม่กลับเส้นทางเดินนะคะ จะไปผ่านแม่กำปอง ออกทางเชียงใหม่แทน
ตรงนี้ ถนนก็เป็น 2 เลนส์เล็กๆเหมือนเดิม โค้งก็ไม่มากไม่มายเท่าทางแจ้ซ้อน จากแม่กำปองไปกิ่วฝิ่นก็ใกล้นิดเดียว คือทางโค้งเยอะๆหน่ะ แปบเดียว เพราะออกจากแม่กำปองไป ถนนก็ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแล้ว
โธ่! ถึงว่าทำไมคนถึงใช้เส้นนี้กันเยอะ มันขับสบายกว่ากันมากๆ

    แต่ๆๆ เราไม่เสียใจหรอกนะ เรามันสาย adventure 5555

ถนนก็เล็กๆค่ะ แต่ระยะถนนแบบนี้น้อยกว่า แค่ 4-5 กิโลเองมั้ง

     จุดหมายต่อไปของเราก็คือ ร้านกาแฟชมนกชมไม้ ที่บ้านแม่กำปอง เห็นรีวิวเค้าว่าวิวสวย เป็นร้านที่เราสามารถจิบกาแฟไปชมวิวสวยๆไปด้วยได้ มาๆดูกัน

 มาถึงแล้วจ้า เป็นบ้านไม้ตั้งอยู่ริมผา

มองไปด้านล่างจะเห็นอยู่บ้านอยู่กลางหุบเขา

 มุมมหาชน 555

เครื่องดื่มได้แล้ว

อากาศเย็นๆ จิบโกโก้อุ่นๆ กำลังดีเลย

     ใกล้มืดเต็มที ทริปทัวร์เขาชะโงกของเราต้องเร่งแล้ว สถานีหน้าคือ 

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก จริงๆก็ใกล้หมดเวลาแล้วล่ะ แต่ไหนๆก็มาแล้ว ก็ขอแวะหน่อยละกัน เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว

     ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก นี้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก เพื่อเป็นแหล่งพัฒนา สาธิต และส่งเสริมการเพาะเห็ดหอม และกาแฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรมีรายได้เสริมนอกจากการปลูกเมี่ยง

ที่มา : http://www.paiduaykan.com/province/north/chiangmai/teentok.html

ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของโครงการ

ข้างในมีร้านกาแฟ มีที่นั่งดูวิวสวยๆด้วย 

 38 เส้นทางแห่งความสุข กับ 38 โครงการหลวง

อันนี้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่าเราจะไปตามเก็บให้ได้

ฝั่งตรงข้ามกับศูนย์พัฒนาฯ เราได้เห็นดอกไม้สีขาวๆออกดอกเต็มต้น

ถามเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นดอกบ๊วยค่ะ ว๊าวๆ นอกจากวันนี้จะได้เห็นนางพญาเสือโคร่งแล้ว

ยังได้มีโอกาสเห็นดอกบ๊วยเป็นครั้งแรกอีกด้วย 

เป็นแบบนี้นี่เอง

     ออกจากศูนย์ฯเราก็มุ่งหน้ากลับไปทางลำปาง ขากลับยังแวะกาดทุ่งเกวียน ตลาดของฝากขนาดใหญ่ใน จ.ลำปางอีกด้วย แต่ลืมถ่ายรูปซะงั้น เพราะมืดมากแล้ว รีบเดินซื้อของแล้วก็กลับค่ะ

     ทริปนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แต่ละสถานที่สวย อยากอยู่ชมธรรมชาติให้นานกว่านี้ เสียดายที่เราไม่สามารถนอนค้างคืนได้ แต่ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าครั้งหน้าจะวางแผนดีๆ แล้วนอนค้างสักคืนให้ได้ ^^